top of page

จตุราหารจานเด็ด

  • Writer: Pathomland The Magazine
    Pathomland The Magazine
  • Dec 6, 2017
  • 1 min read

ไหนๆ ก็พามาเยือนท้องถิ่นเกษตรอินทรีย์กันแล้ว ผู้เขียนขอถือโอกาสนี้พาผู้อ่านทุกท่าน ไปลิ้มลอง 4 เมนูอาหารที่ขึ้นชื่อของที่นี่ ณ ร้านอาหารของโครงการที่มีชื่อว่า “ครัวสุโข” ที่นอกจากจะมีรสชาติเป็นตัวชูโรงแล้ว ยังมีความ “คลีน” เป็นตัวเสริมความน่าลิ้มลอง ซึ่งเหมาะมากๆ สำหรับผู้รักสุขภาพ เพราะ 4 เมนูอาหารที่จะพาไปลิ้มลองต่อไปนี้ ทำมาจากผักสดๆ ที่เก็บมาจากแปลงเกษตรอินทรีย์นั่นแล ซึ่งผักสดนั้นทางโครงการดูแลเป็นอย่างดีด้วยกรรมวิธีทางชีวภาพ ปลอดสารเคมีอย่างแน่นอน สามารถเรียกได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า “ออแกนิคแท้ 100%” แต่สำหรับผู้ที่ไม่ชอบทานอาหารคลีน ผู้เขียนก็ปรารถนาให้ท่านลองเปิดใจชิมดูสักครั้ง ถึงแม้ว่าเมนูเหล่านี้จะทำมาจากผัก แต่ก็มีรสชาติที่ถูกปากอย่างเหลือเชื่อเลยทีเดียว รับรองเลยว่าเมื่อมีคำแรกแล้วจะต้องมีคำที่สองคำที่สามตามมาอย่างแน่นอน

อาหารจานแรกคือ “หมั่นโถว” ครับ ฟังไม่ผิดหรอกครับ “หมั่นโถว” ถึงแม้จะเป็นเมนูที่หาทานได้ทั่วไป แต่หมั่นโถวของที่นี่ ทำจากแป้งสาลีชั้นเลิศที่ได้จากข้าวในโครงการ ซึ่งวิธีการทำจะมีการนำแป้งสาลีมาปั้นด้วยมือ ผสมผสานกับน้ำฟักข้าวให้มีสีส้มอ่อนๆ น่ารับประทาน ก่อนจะนำไปนึ่ง และทีเด็ดก็คือการนำหมั่นโถวที่ได้จากการนึ่งนั้นมาทอดอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้กรอบด้านนอก นุ่มด้านใน แต่ที่เด็ดยิ่งกว่าก็คือน้ำพริกเผาที่เสิร์ฟคู่กับหมั่นโถว เพราะเป็นน้ำพริกเผาสูตรพิเศษที่ทางครัวสุโขคิดค้นขึ้นเอง ถือว่าเป็นส่วนเสริมความอร่อยให้กลับหมั่นโถวได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว

จานถัดมาเป็นกับข้าวที่เราคุ้นเคยกันดีในชีวิตประจำวัน เชื่อว่าหลายๆ ท่าน ที่ไปนั่งทานตามร้านอาหารตามสั่ง ต้องเคยสั่งเมนูนี้มาทานกันอย่างแน่นอน เมนูนั้นก็คือ “ผัดกะเพรา” แต่ของที่นี่ไม่ใช่ผัดกะเพราธรรมดา เพราะมันคือ “ผัดกะเพราสายบัว” ซึ่งเป็นอาหารที่เหมาะมากๆ สำหรับผู้ที่ต้องการลดความอ้วน เพราะนอกจากจะมีส่วนช่วยในการขับถ่ายแล้ว สายบัวยังมีส่วนช่วยในการบำรุงกระดูกและฟัน บำรุงสายตา อีกทั้งยังช่วยดับร้อนในร่างกายอีกด้วย ส่วนเรื่องรสชาติไม่ต้องพูดถึง ลองจินตนาการถึงรสชาติที่เข้มข้นของผัดกะเพรารวมกับความกรุบกรอบของสายบัวดูสิครับ แค่คิดก็น้ำลายสอแล้ว!

จานที่สาม เป็นเมนูชูโรงอีกจานที่กล้าการันตีเลยว่า ท่านผู้อ่านไม่เคยกินที่ใดมาก่อนอย่างแน่นอน เมนูนั้นก็คือ “ส้มตำผักน้ำ” ซึ่งผักน้ำนั้นมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “วอเตอร์เครส(Watercress)” เป็นผักที่มีคุณค่าทางอาหารสูงมาก โดยจะมีปริมาณวิตามินและแร่ธาตุสูงกว่าผักหลายชนิด และสรรพคุณที่สำคัญคือ ผักชนิดนี้มีคุณสมบัติในการล้างสารพิษตกค้างในร่างกาย และยังสามารถช่วยต่อต้านมะเร็งได้อีกด้วย แต่ด้วยรสชาติที่ค่อนข้างทานยากของมัน ทำให้ต้องราดน้ำส้มตำลงไป เพื่อให้รสชาติกลมกล่อม ง่ายต่อการรับประทานนั่นเอง

จานสุดท้าย ไม่สิ! ผู้เขียนขอเรียกว่าแก้วสุดท้ายจะดีกว่า เพราะเมนูตบท้ายของเราเป็นเครื่องดื่มครับ เมนูนั้นมีชื่อว่า “น้ำใบข้าว” เป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ขอบอกเลยว่า ถ้ามาแล้วไม่ได้ดื่มแสดงว่ามาไม่ถึง เพราะเป็นเมนูไฮไลท์ของที่นี่เช่นเดียวกัน ด้วยกลิ่นหอมของข้าวหอมมะลิและรสชาติหวานอ่อนๆ ผนวกกับคุณประโยชน์จากสารพอลิฟีนอลที่ใดจากใบยอดข้าว ซึ่งมีส่วนช่วยในการต่อต้านมะเร็งได้เป็นอย่างดี จึงทำให้เมนูนี้เป็นเมนูตบท้ายที่จะทำให้การมาเยือนโครงการเกษตรอินทรีย์ตามแนวพระราชดำริในครั้งนี้สมบูรณ์แบบนั่นเอง


 
 
 

Comentários


bottom of page